ชื่อเรื่อง(ไทย)
การสร้างพันธุ์ข้าวโพดหวานสองสีลูกผสมเพื่ออุตสาหกรรมการเกษตรแช่แข็งในเขตภาคเหนือของไทยชื่อเรื่อง(Eng)
DEVELOPMENT OF BI-COLOR SWEET CORN HYBRID FOR FROZEN AGRO-INDUSTRY IN NORTHERN THAILANDชื่อผู้วิจัย(ไทย)
ประวิตร พุทธานนท์ ศิริชัย อุ่นศรีส่ง สุรินทร์ ดีสีปาน เศรษฐา ศิริพินทุ์ จินดา จันทร์อ่อน และเสกสรร สงจันทึกชื่อผู้วิจัย(Eng)
PRAWIT PUDDHANON , SIRICHAI AUNSRISONG, SURIN DEESRIPAN, SETTA SIRIPIN, JINDA JUNON AND SEAKSAN SONGJUNTUKหน่วยงาน
สาขาวิชาพืชไร่ คณะผลิตกรรมการเกษตรบทคัดย่อ
การสร้างพันธุ์ข้าวโพดหวานสองสีลูกผสม เพื่ออุตสาหกรรมการเกษตรแช่แข็ง เป็นโครงการวิจัยประยุกต์ด้านการปรับปรุงพันธุ์พืช เพื่อพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดหวานสองสีลูกผสมดีเด่นไว้รองรับการขยายตัวทางด้านอุตสาหกรรมการเกษตรและการส่งออก โดยดําเนินการติดต่อกัน 4 ปี 15 ฤดูปลูก ตั้งแต่ปี 2548-2551 โดยมีขั้นตอนและวิธีการวิจัยต่อจากผลการวิจัยในช่วงปี 2542-2544 ดังนี้ เริ่มผสมผสานเชื้อพันธุกรรมข้าวโพดหวานภายในประเทศไทยเข้ากับเชื้อพันธุกรรมจากต่างประเทศ ประยุกต์ใช่หลักการสร้างและปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดหวานลูกผสม ได้แก่ การเลือกเชื้อพันธุกรรมข้าวโพดหวานที่ดี การสกัดสายพันธุ์โดยการผสมตัวเองรักษาและขยายสายพันธุ์โดยการผสมภายในพี่น้อง ตลอดจนผสมข้ามพันธุ์เพื่อสร้างพันธุ์ลูกผสม การเปรียบเทียบเบื้องต้น เปรียบเทียบมาตรฐาน ทดสอบไร่เกษตรกร และโรงงานอุตสาหกรรม การเกษตรแช่แข็ง ทางด้านผลผลิตและคุณภาพพันธุ์ข้าวโพดหวานสองสีลูกผสม และคัดเลือกพันธุ์ลูกผสมทั้งในมหาวิทยาลัยแม่โจ้และในไร่เกษตรกร ผลการวิจัยสรุปเป็นประโยชน์ที่ได้รับดังนี้ 1.) ได้พันธุ์ข้าวโพดหวานลูกผสมสองสี ที่มีความหวานและอ่อนนุ่มอายุสั้นออกไหม 50% เฉลี่ย 46.5 วัน ความสูงต้นและความสูงฝัก 155.3 และ 55.6 ซม. อายุการเกี่ยว 65-66 วันความยาวฝัก 18.0 ซม. ผลผลิตฝักสดทั้งเปลือกและปอกเปลือกเฉลี่ย 2,732.8 และ 1,898.6 กิโลกรัมต่อไร่สูงกว่าพันธุ์มาตรฐาน NT58 ประมาณ 10-15% และปรับตัวได้ดีในสภาพแวดล้อมของภาคเหนือตอนบน โดยเฉพาะฤดูปลายฝน ฤดูแล้ง และฤดูฝน ตามลําดับ มีศักยภาพดีในอุตสาหกรรมข้าวโพดหวาน แช่แข็ง 4 พันธุ์ได้แก่ พันธุ์ลูกผสม BSW5103 F1, BSW5104 F1, BSW5105 F1 และ BSW5102 F1 2.) ได้สายพันธุ์ที่เกิดความดีเด่นเหนือพ่อแม่ (heterotic pattern) เช่น (Ex1306 (W)S2-3-1 x BJ#137 S5-1-3-2#B-B) F1, (NT58WS#4-2#B#B#B#1 x No.40-7-1#1#B#B#2) F1, (EndeavorS3-1-1#1#1#B x NT58WS#4-2#B#B#B#1) F1, MJU 4058 F1, (NT58YS3#1-3#1#B#B#B x GP (W) S3 -3-1#1#B#B) F1, (No.40-7-1#1#B#B#2#B x Carbaret (W) S2-B-B) F1 และ 3.) ได้สายพันธุ์ที่มีสมรรถนะการผสมทั่วไปสูง (GCA) ได้แก่ Ex1306 W S6, No.40-7-1#1#B#B#2#B#1#1#1, NT58WS3#4-2#B#B#B#1, BJ#1357S9-1-3#1-2-1-2-1-1-1 และ EndeavorS4-1-1#1#1#B#B#1 แต่ก่อนที่จะเลือกเสนอขอรับรองพันธุ์และจดสิทธิบัตร จําเป็นต้อง ศึกษาแนวทางการผลิตเมล็ดพันธุ์ลูกผสมทั้งการผลิตเมล็ดพันธุ์คัด เมล็ดพันธุ์หลัก และเมล็ดพันธุ์จําหน่ายในแปลงปลอดละอองเกสร (isolation plot) คณะผู้วิจัยเห็นควรให้นําผลสําเร็จที่ได้อย่างเป็นรูปธรรมของโครงการปรับปรุงพันธุ์ข้าวโพดปี 2542-44 และปี 2548-50 เสนอขอทุนสนับสนุนจากสํานักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (สวก.) ในการต่อยอดเพื่อพัฒนาพันธุ์และสายพันธุ์สู่ธุรกิจเมล็ดพันธุ์ SMEs ของประเทศไทยต่อไป
Abstract
frozen quality evaluation in factory, eventually selection of an elite Bi-color sweet corn hybrid varieties. The outcomes were as follows: 1.) obtained the 4 sweet and tenderness Bi-color sweet corn hybrids with average 50% silking date of 46.5 days. Others agronomic characteristics such as plant and ear heights were 155.3 and 55.6 cm., harvesting date within 65-66 days, 18 cm. ear length. Green and yellow yield of 2,732.8 and 1,898.6 kg./rai which were 10-15 % higher than standard variety; NT58, adaptable to upper north environment especially late rainy, dry, rainy seasons with high potential for frozen sweet corn. The varieties were BSW5103 F1, BSW5104 F1, BSW5105 F1 and BSW5102 F1 2.) High heterotic pattern were found between (Ex1306(W)S2-3-1 x BJ#137S5-1-3-2#B-B) F1, (NT58WS#4-2#B#B#B#1 x No.40-7-1#1#B#B#2) F1, (EndeavorS3-1-1#1#1#B x NT58WS#4-2#B#B#B#1) F1, MJU 4058 F1, (NT58YS3#1-3#1#B#B#B x GP (W) S3-3-1#1#B#B) F1, (No.40-7-1#1#B#B#2#B x Carbaret (W) S2-B-B) F1 and 3.) obtained the inbred lines with high GCA such as Ex1306 W S6, No.40-7-1#1#B#B#2#B#1#1#1, NT58WS3#4-2#B#B#B#1, BJ#1357S9-1-3#1-2-1-2-1-1-1 and Endeavor S4-1-1#1#1#B#B#1. Before variety registration and patent, the hybrid seed production process has to be well established for breeder, foundation and commercial seed in the isolation plots. It is suggested that all the relevant outcomes from the research projects from 1999-2001 and 2005-2008 should propose for a further research fund from Agricultural Research Development Agency (ARDA) in order to commercially distribute the inbred lines and parents to Thai Small and Medium Enterprises (SMEs).