ผู้ดำเนินรายการ นายพิชัย สมบูรณ์วงศ์และนางจิรนันท์ เสนานาญ
วิทยากร อาจารย์วินัย วิริยะอลงกรณ์ สาขาไม้ผล ภาควิชาพืชสวน คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
น้อยหน่าพันธุ์เพชรปากช่อง
น้อยหน่าลูกผสม (Annona atemoya Hort.) เป็นลูกผสมระหว่าง "เซริมัวย่ากับสวีทชอพ" ผลมีลักษณะคล้ายเซริมัวย่า สามารถปลูกได้ดีในบริเวณที่ปลูกน้อยหน่าพื้นเมือง แต่บางพันธุ์ต้องปลูกในบริเวณที่มีอากาศหนาวเย็นกว่า และสูงจากระดับน้ำทะเลมาก ๆ จึงจะออกดอกติดผล เนื่องจากเป็นลูกผสมการขยายพันธุ์โดยการใช้เมล็ดจึงมีโอกาสกลายพันธุ์เป็นอย่างมาก การรักษาพันธุ์สามารถทำได้โดยการติดตาหรือต่อกิ่ง โดยใช้น้อยหน่าหรือสวีทซอฟ เป็นต้นตอ นิยมปลูกกันแพร่หลายใน อเมริกา อิสราเอล และ ออสเตรเลีย ในประเทศไทยนำเข้ามาปลูก ที่อำเภอปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา เรียกกันติดปากว่า "น้อยหน่าออสเตรเลีย"
จุดเด่น: ผลขนาดใหญ่ เนื้อมาก เมล็ดน้อย ให้ผลผลิตเร็ว และติดผลดกกระจายทั่วต้น
จุดด้อย: มีเมล็ดน้อยจึงมักผลบิดเบี้ยว แต่ติดผลดกสามารถเลือกไว้ผลที่สมบูรณ์ได้อย่างเพียงพอ
แหล่งปลูกและสภาพพื้นที่ปลูก น้อยหน่าชอบอากาศร้อนแห้งไม่หนาวจัด ปริมาณน้ำฝน 800 – 1,300 มิลลิเมตร/ปี อุณหภูมิ 10-40 องศาเซลเซียส มีแสงแดดจัดส่องได้ทั่วถึง พื้นที่สูงจากระดับน้ำทะเลไปจนถึงที่ระดับความสูง 1,000 เมตร ดินและสภาพดินปลูกมีความอุดมสมบูรณ์สูง หน้าดินลึกตั้งแต่ 40เซนติเมตรขึ้นไปชอบดินร่วนทราย หรือดินร่วนเหนียว มีการระบายน้ำดีไม่มีน้ำท่วมขัง ค่าความเป็นกรดเป็นด่างของดินระหว่าง 5.5 - 7.4 มีแหล่งน้ำเพียงพอสำหรับใช้ตลอดฤดูกาลหรือในช่วงฝนทิ้งช่วงสะอาดปราศจากสารพิษปนเปื้อน
พันธุ์ ควรเลือกปลูกพันธุ์ที่มีลักษณะตรงตามพันธุ์และตลาดต้องการเช่น น้อยหน่าควรปลูกน้อยหน่าหนังเขียวและฝ้ายเขียวที่ผ่านการคัดพันธุ์แล้ว และน้อยหน่าลูกผสมปลูกพันธุ์การค้าเช่นพันธุ์เพชรปากช่อง เพราะเจริญเติบโตได้ดีเหมาะกับสภาพภูมิอากาศในพื้นที่ของประเทศไทยต้นพันธุ์ที่ใช้ปลูกได้จากการขยายพันธุ์ด้วยวิธีการไม่ใช้เพศเช่น การต่อกิ่งบนต้นตอน้อยหน่าเพาะเมล็ด มีความสมบูรณ์ อายุอยู่ระหว่าง 6 - 12 เดือน