มะเขือพวงไร้หนาม

    12-1มะเขือพวงไร้หนาม "แม่โจ้นิรมิต1" บทความจากหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ ฉบับวันที่  25 ธันวาคม 2552 ปีที่ 39 ฉบับที่ ... คอลัมม์ ทรัพย์ในดินสินในน้ำ..

    thainews

    12-1_1ถ้าแกงเขียวหวานหม้อนี้.....ไม่ได้ใส่มะเขือพวง    ถ้าน้ำพริกกะปิครกนี้ไม่มีมะเขือพวง.......รวมทั้งอาหารอีกหลากหลายชนิดที่ต้องมีมะเขือพวงเป็นเอกลักษณะเฉพาะ.....รสชาติ    ความเป็นเอกลักษณ์คงหมดไปอย่างแน่นอน......    คนไทยกับมะเขือพวงเคียงคู่รู้จักกันมานานจนอาจเปรียบได้ว่าเป็นเพื่อนสนิททีเดียว    มะเขือพวงนอกจากจะเป็นพืชอาหารดังกล่าวแล้ว    ยังมีสรรพคุณทางยาที่น่าสนใจอีกด้วย  อาทิเช่น  การรับประทานผลของมะเขือพวงจะมีผลทำให้การไหลเวียนของโลหิตดี  แก้ไอ  ขับเสมหะ  ส่วนของรากนำมาจำแล้วพอกรักษาอาการส้นเท้าแตก   น้ำสกัดจากต้นใช้แก้พิษงู  และแมลงสัตว์กัดต่อย    เมล็ดนำไปเผาสูดเอาควันรมแก้ปวดฟัน  ใบสดใช้ห้ามเลือด  พวกให้ฝีหนอกแตกเร็วขึ้น  ผลต้มน้ำกินแก้ไอในเด็ก  การใช้ประโยชน์ในประเทศไทยยังคงใช้เป็นอาหารเป็นส่วนใหญ่  และนอกจากนั้นปัจจุบันนิยมนำมาใช้เป็นต้นตอสำหรับเปลี่ยนยอดให้กับพืชอื่น  เช่น  มะเขือเทศ  มะเขือม่วง  เพื่อเป็นการป้องกันโรคทางดินบางชนิด  เช่นโรคเหี่ยว  ที่เกิดจากเชื้อราหรือแบคทีเรีย

    ถ้ามองดูโดยผิวเผินอาจจะมองเห็นว่ามะเขือพวงเป็นพืชหัวไร่ปลายนา  มิได้มีความสำคัญมากนัก  ซึ่งจะเห็นได้จากข้อมูลเกี่ยวกับพืชชนิดนี้  การรวบรวมพื้นที่ปลูก  ผลผลิต  ราคา  รวมถึงการวิจัยเกี่ยวกับพืชชนิดนี้  นับว่าน้อยมาก  แต่ถ้ามองไปถึงความต้องการในแง่ของการบริโภค  คุณค่าทางโภชนาการและสมุนไพร  นับได้ว่าพืชชนิดนี้มีศักยภาพไม่น้อยเลยทีเดียว12-2

    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฉันทนา  วิชรัตน์  สาขาพืชผัก  ภาควิชาพืชสวน  คณะผลิตกรรมการเกษตร  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ทำการปรับปรุงพันธุ์มะเขือพวง  จนได้มะเขือพวงพันธุ์ใหม่  คือ  “แม่โจ้นิรมิต 1” (ซึ่งอยู่ในระหว่างขั้นตอนการรับรองพันธุ์)  มะเขือพวงพันธุ์แม่โจ้นิรมิต 1  มีสายพันธุ์ดั้งเดิมได้มาจากอำเภอดำเนินสะดวก  จังหวัดราชบุรี  ในปี  2537  ได้มีการนำมาปลูกที่มหาวิทยาลัยแม่โจ้  จังหวัดเชียงใหม่  พบว่ามีความแตกต่างจากมะเขือพวงของภาคเหนือ  โดยมะเขือพวงของภาคเหนือจะมีหนาม  ซึ่งจำนวนและลักษณะของหนามจะมากน้อยแตกต่างกันออกไป  ส่วนมะเขือพวงจากอำเภอดำเนินสะดวก  นั้นจะมีลักษณะเด่นที่ไม่มีหนาม  การนำมาปลูกในครั้งแรกพบว่า  ลักษณะการเจริญเติบโตแตกต่างไปจากพันธุ์เดิม  โดยมีขนาดทรงพุ่มกว้าง  ต้นสูง  การแตกกิ่งแขนงมากกว่า  ซึ่งอาจจะเกิดจากสภาพภูมิอากาศที่ต่างกัน  นอกจากนั้นยังมีอายุยืนนานสามารถทำการคัดแต่งกิ่ง  เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตแลต้นเริ่มทรุดโทรมได้ถึง  2  รอบ  จึงได้นำมาพัฒนาสายพันธุ์   โดยการคัดเลือกต้นที่มีลักษณะโดดเด่นด้านความแข็งแรงของระบบราก  ทั้งนี้วัตถุประสงค์ในครั้งนั้นเพื่อที่จะใช้เป็นต้นตอของพืชตระกูลมะเขือ    ได้แก่  มะเขือเทศ  และมะเขือม่วง  ซึ่งมีปัญหาด้านความไม่ต้านทานโรคทางดินเป็นหลัก  แต่อย่างไรก็ตามขณะที่ทำการคัดเลือกเพื่อวัตถุประสงค์หลักดังกล่าวพบว่า    มะเขือพวงที่ได้ทำการคัดเลือกไว้บางจ้นมีลักษณะในการผลิตสดได้ดี  คือ  ผลดก  ติดผลเร็ว  รสชาติดี  ประกอบกับการที่เป็นมะเขือพวงที่ไม่มีหนามทำให้สามารถเก็บเกี่ยวได้ง่าย    อีกทั้งสามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมได้ดี  จึงได้ทำการคัดเลือกโดยใช้วิธีการคัดเลือกแบบหมู่  (Mass selection)  จนได้พันธุ์มะเขือพวงที่มีลักษณะเด่น  คือ  ไม่มีหนาม  ผลดก  รสชาติดี  เป็นพันธุ์ที่มีต้นแข็งแรง  ต้านทางโรคทางดินได้ดี  และได้ทำการตั้งชื่อพันธุ์ว่า  “แม่โจ้นิรมิต 1” เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้กับ  ดร.นิรมิต  กิจรุ่งเรือง  อาจารย์ด้านการปรับปรุงพันธุ์พืชผัก  ของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ผู้ล่วงลับ

    12-3

    ลักษณะประจำพันธุ์

    - ไม่มีหนาม

    -  ให้ผลดก และติดผลเร็ว

    -  มีรสชาติดี

    -  มีลำต้นแข็งแรง และต้านทานโรคทางดินดี

    -  มีกิ่งแขนงมาก และมีทรงพุ่มกว้าง

    -  อายุต้นกล้าประมาณ 1 เดือน

    -  อายุการเก็บเกี่ยว 80-90 วันหลังย้ายปลูก

    -  ผลผลิตสูง  สามารถปลูกได้ตลอดปี

    -  อายุยาวนาน 2 – 3 ปี

    12-5

    การปลูกและการปฏิบัติดูแลรักษา

    มะเขือพวงเป็นพืชที่ปลูกง่าย  ขึ้นได้ดีในดินเกือบทุกชนิด  อีกทั้งเป็นพืชผักที่มีอายุยาวนาน  นิยมปลูกเป็นพืชผักสวนครัว  และปลูกเชิงการค้า

     

    การเตรียมดิน

    โดยการไถตากดินไว้ประมาณ  1  สัปดาห์  ขึ้นแปลงขนาดกว้างประมาณ  1.20  เมตร ใส่ปุ๋ยอินทรีย์  1 – 2 ต้น / ไร่

     

    การเพาะกล้า

    นำเมล็ดไปแช่น้ำ  แล้วห่อด้วยผ้าหมาด ๆ ทิ้งไว้ 1 – 2 วัน  หรืออาจจะแช่น้ำอุ่นประมาณ  40 – 50  องศาเซลเซียส  (อุ่นพอที่จะแช่มือลงไปได้)  นานประมาณ  1  ชั่วโมง  แล้วจึงนำมาห่อผ้าหมาด  จะเป็นการเร่งความงอกได้ดีขึ้น  นำเมล็ดลงเพาะในแปลงเพาะหรือกระบะเพาะ  หมั่นรดน้ำดูแลจนอายุได้ประมาณ  1  เดือน  สามารถนำไปปลูกได้

    การปลูก

    ปลูกโดยใช้ระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 1.5  เมตร  ระยะระหว่างแถว  ประมาณ  2  เมตร

    12-4

    การใส่ปุ๋ย

    หลังปลูกประมาณ  2  สัปดาห์  ใส่ปุ๋ยยูเรีย  โดยการผสมน้ำรด  และทุก ๆ 20 – 30 วัน    จะใส่ปุ๋ยสูตร  15-15-15  อัตราประมาณ  25 – 30  กิโลกรัม / ไร่ / ครั้ง  แต่อย่างไรก็ตามการพิจารณาการใส่ปุ๋ยควรพิจารณาจากต้น  และลักษณะการเจริญเติบโตของพืชเป็นหลัก

     

    การเก็บเกี่ยว

    มะเขือพวงพันธุ์แม่โจ้นิรมิต 1  สามารถเริ่มเก็บเกี่ยวได้เมื่ออายุประมาณ  80 – 90  วัน  หลังย้ายปลูก  และทยอยเก็บเกี่ยวได้เรื่อย ๆ เมื่อต้นอายุมากขึ้นเริ่มทรุดโทรม  สามารถทำการตัดแต่งกิ่งเพื่อให้มีการแตกกิ่งก้านและให้ผลผลิตใหม่ได้อีก

     

    อัตราการใช้เมล็ดพันธุ์ต่อไร่

    ใช้เมล็ดพันธุ์ประมาณ  30  กรัม  ต่อไร่

    ท่านผู้อ่านท่านใดสนใจต้องการซื้อเมล็ดพันธุ์และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่

    ผู้ช่วยศาสตราจารย์ฉันทนา  วิชรัตน์   สาขาพืชผัก  ภาควิชาพืชสวน  คณะผลิตกรรมการเกษตร  มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 053-873380   ในวันและเวลาราชการ

    12-6

     

    รายงานโดย

    ฝ่ายส่งเสริมการเกษตร 
    สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร
    มหาวิทยาลัยแม่โจ้  โทร. 053-873938-9

     

     

     

    © 2017 Your Company. All Rights Reserved. Designed By agethemes.com.com
    Free Joomla! templates by AgeThemes