ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่างการเตรียมต้นฉบับ
Journal of Agricultural Research and Extension (ชื่อภาษาไทย วารสารวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตร) เป็นวารสารราย 4 เดือน กำหนดออกปีละ 3 ฉบับ โดยเริ่มฉบับที่ 1 ในเดือนมกราคม ฉบับที่ 2 ในเดือนพฤษภาคม และฉบับที่ 3 ในเดือนกันยายน มีจุดประสงค์หลักเพื่อเผยแพร่ผลงานวิจัยของมหาวิทยาลัยแม่โจ้ และองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการเกษตรทั่วประเทศ โดยมีการเผยแพร่ออนไลน์ (Journal Online) ในรูปวารสารอิเล็กทรอนิกส์ (E-ISSN 2630-0206) (เริ่มใช้รหัสในเดือนสิงหาคม 2561) การเผยแพร่ในแบบรูปเล่ม (ISSN 0125-8850) และในปี พ.ศ. 2562 วารสารจะดำเนินการการตีพิมพ์ในรูปแบบวารสารอิเล็กทรอนิกส์เพียงรูปแบบเดียวเป็นต้นไป
เรื่องที่จะตีพิมพ์ในวารสารนอกจากบทความวิจัยแล้ว บทความทางวิชาการอื่นๆ ที่เป็นการแสดงความคิดใหม่ หรือสมมุติฐานใหม่ที่มีหลักฐานอ้างอิง หรือเป็นการแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวางหรือลึกซึ้งในสาขาวิชาการใดสาขาวิชาการหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการเกษตร หรือเป็นการรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ ก็มีสิทธิ์ได้รับการตรวจสอบทางวิชาการจากผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญในสาขาที่เกี่ยวข้องกับบทความนั้นๆ อย่างน้อย 2 ท่าน พิจารณาให้ลงตีพิมพ์ ได้เช่นเดียวกัน วารสารวิจัยและส่งเสริมวิชาการเกษตรได้รับการรับรองให้อยู่ในฐานข้อมูลศูนย์ดัชนีวารสารไทย (TCI) กลุ่ม 1
การเตรียมต้นฉบับ
-
ต้นฉบับ ตีพิมพ์บทความเป็นภาษาไทย การพิมพ์ใช้ตัวอักษร TH Sarabun New ขนาดตัวอักษร 16 ตัวหนา ในส่วนของหัวข้อเรื่อง และขนาดตัวอักษร 15 ตัวปรกติ ในส่วนของเนื้อหา พิมพ์หน้าเดียวในกระดาษขนาด A4 เว้นขอบทั้ง 4 ด้าน 1 นิ้ว (2.5 ซม.) พร้อมระบุเลขหน้า ความยาวของเนื้อเรื่อง รวมรูปภาพ ตาราง และเอกสารอ้างอิงต้องไม่เกิน 10 หน้า
-
ชื่อเรื่อง ต้องมีทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ควรกระชับและตรงกับเนื้อเรื่อง ขนาดตัวอักษร 18 ตัวหนา
-
ชื่อผู้แต่ง และสถานที่ติดต่อ ต้องมีชื่อเต็ม-นามสกุลเต็มทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ขนาดตัวอักษร 15 ตัวหนา และระบุหน่วยงานหรือสถาบันที่สังกัด ของผู้แต่งหลักและผู้แต่งร่วมทุกคน และ E-mail address ของผู้แต่งหลักไว้ด้วย ขนาดตัวอักษร 12 ตัวปรกติ
-
บทคัดย่อ (Abstract) บทความวิจัย/บทความทางวิชาการอื่นๆ จะต้องมีบทคัดย่อทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ความยาวไม่เกิน 15 บรรทัด โดยเขียนให้กะทัดรัด ตรงประเด็น และให้สาระสำคัญ
-
คำสำคัญ (Keywords) ต้องมีคำสำคัญทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษไว้ท้ายบทคัดย่อของแต่ละภาษา อย่างละไม่เกิน 5 คำ
-
เนื้อเรื่อง
-
คำนำ อธิบายความสำคัญของปัญหาและวัตถุประสงค์ของการวิจัย อาจรวมการตรวจเอกสารเข้าไว้ด้วย ในการอ้างอิงเอกสารให้เขียนชื่อผู้แต่ง และปีที่ตีพิมพ์ อยู่ในวงเล็บเดียวกัน หรือเขียนชื่อผู้แต่ง แล้วเขียนปีที่ตีพิมพ์ ไว้ในวงเล็บแล้วแต่กรณี เฉพาะภาษาอังกฤษ ดังนี้ “..........โรคใบหงิกมีพบทั่วไปในประเทศบังคลาเทศ จีน อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ไต้หวัน ไทย (Boccardo and Milne, 1984; Ling et al., 1978) ในประเทศไทยนั้น นอกจากก่อความเสียหายกับ ข้าวปลูกทั้งชนิด Japonica และ Indica (Oryza sativa) พันธุ์ต่างๆ แล้ว Thawat (2001) ยังพบว่า ทำความเสียหายได้กับข้าวไร่และข้าวป่าต่างๆ..........”
-
อุปกรณ์และวิธีการ/วิธีดำเนินการวิจัย อธิบายเครื่องมือ พร้อมระบุวิธีการวิจัย วิธีการเก็บข้อมูล ระยะเวลาและปีที่ทำการวิจัย รวมทั้งวิธีการวิเคราะห์ข้อมูล ให้บรรยายโดยสรุปและไม่จำเป็นต้องระบุวิธีการที่เป็นที่รู้กันทั่วไป
-
ผลการวิจัย ไม่จำเป็นต้องแสดงวิธีการวิเคราะห์ทางสถิติ แต่ให้เสนอในรูปของตาราง และรูปภาพโดยสรุปหลังจากวิเคราะห์ทางสถิติแล้ว ทั้งนี้ คำอธิบายและรายละเอียดต่างๆ ของตารางและรูปภาพ ต้องเป็นภาษาอังกฤษเท่านั้น โดยมีความชัดเจน กะทัดรัด และมีหมายเลขกำกับด้านล่างของรูปภาพ และเมื่ออ้างถึงในเนื้อหาให้ใช้เป็นคำว่า Table และ Figure
-
การวิจารณ์ผล การสรุปผล และข้อเสนอแนะ ควรวิจารณ์ผลการวิจัยพร้อมทั้งสรุปประเด็น และสาระสำคัญของงานวิจัย หรือให้ข้อเสนอแนะบนพื้นฐานของผลการวิจัย
หมายเหตุ: หน่วยวัดตามระบบต่างๆ ให้ใช้ตัวย่อตามมาตรฐานในการเขียนที่กำหนดไว้ เช่น เซนติเมตร = ซม. ตารางเมตร = ตร.ม. มิลลิกรัมต่อกิโลกรัม = มก./กก. แต่ถ้าเป็นหน่วยวัดที่มีพยางค์เดียวให้ใช้คำเต็มตามปรกติ เช่น เมตร กรัม ลิตร
-
กิตติกรรมประกาศ เพื่อแสดงความขอบคุณแก่ผู้ให้ทุนวิจัย หรือผู้ที่ได้ให้ความช่วยเหลือในการวิจัย
-
เอกสารอ้างอิง รายชื่อเอกสารที่ใช้เป็นหลักในการค้นคว้าวิจัยและมีการอ้างถึงในเนื้อหา โดยแสดงเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด กรณีที่อ้างอิงเอกสารภาษาไทยหรือภาษาอื่นๆ ให้แปลเป็นภาษาอังกฤษ โดยมีวงเล็บกำกับท้ายเอกสาร [in Thai] หรือภาษาอื่นๆ ตามคำแนะนำวิธีการเขียน ดังนี้
การเขียนเอกสารอ้างอิง
1.บทความจากวารสารวิชาการมาตรฐาน
1.1 ผู้เขียนคนเดียวหรือหลายคน
ชื่อผู้เขียนบทความคนที่ 1,/ผู้เขียนบทความคนที่ 2/และ/ผู้เขียนบทความคนสุดท้าย.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อบทความ.//ชื่อวารสาร/เลขปีที่(เลขฉบับที่):/เลขหน้า.
Koiprasert, H. and P. Niranatlumpong. 2004. Investigation of method for Stainless Steel Welding Wire as a Replacement
for Arc Wire Comsumables. Songklanakarin J. Sci. Technol. 27(1): 91-100. [in Thai]
Nadeem, M.Y. and M. Ibrahim. 2002. Phosphorus management in wheat-rice cropping system. Pak. J. Soil Sci.
21(4): 21-23.
Chowdhury, M.A.H., R. Begum, M.R. Kabit and H.M. Zakir. 2002. Plant and animal residue decomposition and transformation
of S and P in soil. Pakistan Journal of Biological Sciences 5(7): 736-739.
2.หนังสือ
2.1 ผู้เขียนคนเดียวหรือหลายคน
ชื่อผู้แต่งคนที่ 1,/ผู้แต่งคนที่ 2/และผู้แต่งคนสุดท้าย.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อหนังสือ.//ครั้งที่พิมพ์ (ถ้ามี).//สถานที่พิมพ์:/สำนักพิมพ์.// จำนวนหน้า.
Peyachoknagu, S. 2000. Pan Thu Vis Sa Wa Kum. Bangkok: Kasetsart University Press. 256 p. [in Thai]
Aksornkoae, S. 1999. Ecology and Management of Mangroves. Bangkok: Kasetsart University Press. 198 p.
Rajeshwar, K. and J.G. Ibanez. 1997. Environmental Electrochemistry. San Diego: Academic Press. 327 p.
2.2 บทหนึ่งในหนังสือ
ชื่อผู้เขียนบทความ.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อบทความ.//น./เลขหน้าที่ปรากฏเรื่อง.//ใน/ชื่อผู้รับผิดชอบ.//ชื่อหนังสือ.//รายละเอียดอื่นๆ (ถ้ามี). //ครั้งที่พิมพ์ (ถ้ามี).//สถานที่พิมพ์:/สำนักพิมพ์.
Hill, S.E. 1996. Emultions. pp. 153-185. In Hall, G.M. (ed.). Methods of Testing Protein Functionality.
London: Chapman & Hall.
Jacober, L.F. and A.G. Rand. 1982. Biochemical of Seafood. pp. 347-365. In Martin, R.E., G.J. Flick, C.E. Hebard
and D.R. Ward (eds.). Chemistry and Biochemistry of Marine Food Products. Westport: AVI Inc.
2.3 หนังสือที่มีผู้รับผิดชอบในหน้าที่เป็นผู้รวบรวม ผู้เรียบเรียง หรือบรรณาธิการ
ชื่อผู้รับผิดชอบ.//(หน้าที่รับผิดชอบ).// ปีที่พิมพ์.//ชื่อเรื่อง.//ครั้งที่พิมพ์ (ถ้ามี).//สถานที่พิมพ์:/สำนักพิมพ์.//จำนวนหน้า.
Tosirichok, K. (Editor). 1994. Karn Rak Sa Doi Sa Moon Pri. 1st. Bangkok: Mayik Publisher. 172 p. [in Thai]
Byrappa, K. and M. Yoshimura. (eds.). 2001. Handbook of Hydrothermal Technology.
New Jersey: Noyes Publication. 854 p.
3.เอกสารอื่นๆ
3.1 วิทยานิพนธ์
ชื่อผู้แต่ง.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อวิทยานิพนธ์.//ระดับของวิทยานิพนธ์.//ชื่อสถาบันการศึกษา.//จำนวนหน้า.
Soitongcome, P. 1987. Tannin Extraction form Rhizophora’s Bark for Retanning. Master dissertation.
Kasetsart University. 113 p. [in Thai]
Saiklao, W. 2002. Adaptive Bandwidth Allocation Control for Virtual Paths in Broadband Networks.
Doctoral dissertation. Georgia Institute of Technology. 86 p.
3.2 รายงานการประชุมวิชาการ รายงานการสัมมนา ปาฐกถา รายงานประจำปี
ชื่อผู้เขียนบทความ.//ปีที่พิมพ์.//ชื่อบทความ.//น./เลขหน้าที่ปรากฏเรื่อง.//ใน/ชื่อการประชุม.//รายละเอียดอื่นๆ (ถ้ามี).//ครั้งที่พิมพ์ (ถ้ามี).//สถานที่พิมพ์: สำนักพิมพ์.
Summadee, P. and B. Leenanon.. 2013. Production of Probiotic Kefir Product. p. 109-116 In Proceedings of the 12th
MJU Annual Conference (Poster). Chiang Mai: Maejo University. [in Thai]
Coates, J. 2013. Clinical Trial for Canine Degenerative Myelopathy. pp. 29-31. In Proceedings of ACVIM Specialty
Symposium (Pre-forum) 12-15 June 2013. Seattle: American College of Veterinary Internal Medicine (ACVIM)
3.3 รายงานผลการวิจัย
ชื่อผู้เขียนงานวิจัย.//ปีที่พิมพ์.//ชื่องานวิจัย.//จำนวนหน้า.//ใน/รายงานผลการวิจัย.//สถานที่พิมพ์:/ชื่อหน่วยงาน.
Pooprompan, P. K. Duangsong. and R. Sribaopern. 2001. DNA Fingerprinting of Thai Native Orchid Vanda coerulea.
62 p. In Research Report. Chiang Mai: Maejo University. [in Thai]
Theraumpon, N. 2003. Automatic classification of white blood cells in bone marrow images. 74 p.
In Research Report. Chiang Mai: Chiang Mai University.
3.4 บทความจากนิตยสาร
ชื่อผู้เขียนบทความ.//ปีที่ตีพิมพ์.//ชื่อบทความ.//ชื่อนิตยสาร.//ปีที่ของนิตยสาร(เล่มที่): เลขที่หน้าที่อ้างอิง.
Srinuansom, K. 2018. Half-artficial breeding of Monopterus albus. Maejo Vision 18(4): 33-37. [in Thai]
3.5 บทความจากหนังสือพิมพ์
ชื่อผู้เขียนบทความ.//ปีที่ตีพิมพ์.//ชื่อบทความ.//ชื่อหนังสือพิมพ์.//(วันที่/เดือน/ปี):/เลขที่หน้าที่อ้างอิง.
Manapaisarn, S. 2006. Kra Sate Tra Korn Thai Nai A Na Koth. Thai Rath. (10 January 2006): 7. [in Thai]
4.แหล่งข้อมูลอิเลคทรอนิกส์
ผู้แต่งหรือผู้รับผิดชอบ.//ปีที่บันทึกข้อมูล.//ชื่อเรื่อง.//[ระบบออนไลน์].//แหล่งที่มา/ระบุแหล่งการติดต่อเครือข่าย หรือการถ่ายโอนแฟ้มข้อมูล ชื่อแฟ้มข้อมูล/(วันที่/เดือน/ปี ที่ค้นข้อมูล).
Maythiyanon, T. N. Piriyarungroj and S. Soponarit. 2004. Novel vortex-fluidized bed combustor with two combustion chambers
for rice-husk fuel. SJST 26(6): 875-893. [Online]. Available http://www2.psu.ac.th/PresidentOffice/EduService/
Journal/Firstpage.htm (22 September 2005). [in Thai]
National Economic and Social Development Board (NESDB). 2001. Input-output tables of Thailand.
[Online]. Available http://www.nesdb.go.th (8 August 2001).
Singh, M. and R.P. Singh. 2001. Siderophore producing bacteria-as potential biocontrol agents of mushroom disease.
[Online]. Available http://www.uio.no/conferences June2000.htm# Samuels (3 July 2001).
Guide for Authors
Manuscripts submitted for publication should be of high academic merit and are accepted on condition that they are contributed solely to the Journal of Agricultural Research and Extension. Manuscripts, parts of which have been previously published in conference proceedings, may be accepted if they contain additional material not previously published and not currently under consideration for publication elsewhere.
Submission of a multi-authored manuscript implies the consent of all the participating authors. All manuscripts considered for publication will be peer-reviewed by at least 2 independent referees.
Submission checklist
Manuscript submission must include title page, abstract, keywords, text, tables, figures, acknowledgments, reference list and appendices (if necessary). The title page of this file should include the title of the article, full names, official name and affiliations of all authors, E-mail address, telephone and fax numbers and full postal address of the corresponding author.
Preparation and Submission of Manuscripts
Authors submitting manuscripts for consideration for publication should follow the following guidelines.
1. Manuscript texts must be written using high-quality language. For non-native English language authors, the article should be proof-read by a language specialist before it is sent to Journal.
2. Manuscript texts should not exceed than 10 pages and the combined number of figures and tables. The inclusion of more figures and tables will reduce the word allowance, and vice versa.
3. The manuscript text and tables should be created using Microsoft Word.
4. Manuscript texts should be prepared single column, with sufficient margins (1.0 inch) for editorial and proof-reader’s marks. 12 pt TH Sarabun New font should be used throughout and all pages numbered consecutively.
5. Abstracts should not exceed than 200 words. About 5 keywords should also be provided.
6. All measures in the text should be reported in abbreviation
7. Tables and figures should each be numbered consecutively.
8. Acknowledgments should be as brief as possible, in a separate section before the references, not in the text or as footnotes.
9. Citations of published literature in the text should be given in the form of author and year in parentheses; (Hoffmann et al., 2001), or, if the name forms part of a sentence, it should be followed by the year in parenthesis; Hoffmann et al. (2001). All references mentioned in the reference list must be cited in the text, and vice versa. The references section at the end of the manuscript should list all and only the references cited in the text in alphabetical order of the first author’s surname. The following are examples of reference writing.
Reference to a journal article:
Chowdhury, M.A.H., R. Begum, M.R. Kabit and H.M. Zakir. 2002. Plant and animal residue decomposition and transformation of S
and P in soil. Pak. J. Bio. Sci. 5: 736-739.
Reference to article or abstract in a conference proceedings:
Coates, J. 2013. Clinical Trial for Canine Degenerative Myelopathy. pp. 29-31. In Proceedings of ACVIM Specialty
Symposium (Pre-forum) 12-15 June 2013. Seattle: American College of Veterinary Internal Medicine (ACVIM).
Reference to a book:
Rajeshwar, K. and J.G. Ibanez. 1997. Environmental Electrochemistry. San Diego: Academic Press. 327 p.
Reference to an edited book:
Hill, S.E. 1996. Emultions. pp. 153-185. In Hall, G.M. (ed.). Methods of Testing Protein Functionality. London: Chapman & Hall.
Reference to an electronic data source (used only when unavoidable): Supplier/Database name (Database identifier or number)/Item or accession number (Access date) should be included
National Economic and Social Development Board (NESDB). 2001. Input-output tables of Thailand. [Online]. Available
http://www.nesdb.go.th (8 August 2001).
10. Submission of manuscript includes 3 copies in which one of them must conform to the format of the Journal of Agricultural Research and Extension. The other must be submitted without the author’s name and office with CD and cover letter to the editor. All should be directed to the editor at the address given.
ดาวน์โหลดไฟล์ตัวอย่างการเตรียมต้นฉบับ
แบบลงทะเบียน
UPDATE: 25/02/2563
การส่งต้นฉบับ
โปรดส่งต้นฉบับซึ่งจัดทำตามรูปแบบที่กำหนดมายัง
กองบริหารงานบริการวิชาการ
งานสารสนเทศและเผยแพร่งานบริการวิชาการ
ศูนย์การศึกษาต่อเนื่อง อาคารธรรมศักดิ์มนตรี
สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้
63 หมู่ 4 ตำบลหนองหาร อำเภอสันทราย
จังหวัดเชียงใหม่ 50290
โทรศัพท์ 0 5387 3411, 0 5387 3410 โทรสาร 0 5387 3418
อีเมลล์: This email address is being protected from spambots. You need JavaScript enabled to view it.