เผาแกลบให้เป็นเงิน โดยใช้เตาขนาด 200 ลิตร ข่าวจากหนังสือพิมพ์ไทยนิวส์ ฉบับวันที่ 19 มีนาคม 2553 ปีที่ 40 ฉบับที่14,415
ข้าวเป็นพืชที่มีความสำคัญและเกี่ยวข้องกับวิถีชีวิตของประชาชนคนไทยมาตั้งแต่อดีตกาล ข้าวเป็นอาหารหลักของคนไทยและเป็นอาหารของคนกว่าครึ่งโลก พื้นที่ปลูกข้าวในประเทศประมาณ 57 ล้านไร่ เป็นพื้นที่ปลูกข้าวจ้าว 59 ล้านไร่ และข้าวเหนียว 18 ล้านไร่ ปัจจุบันในหลาย ๆ พื้นที่ได้เปลี่ยนกระบวนการและขนบธรรมเนียมประเพณีในการทำนา จากในอดีตมีการลงแขกในการดำนา การเกี่ยวข้าว การนวดข้าว มาเป็นการจ้างแรงงานจากคนหรือใช้เครื่องจักรกลแทนโดยเฉพาะอย่างยิ่งการเก็บเกี่ยวข้าว จากกระบวนการเกี่ยวข้าว ตากไว้บนตอซังหรือคันนา 2-3 แดด แล้วมัดรวมเป็นกำ หาบข้าวมากองรวมกันที่ลานนวดข้าว และช่วยกันนวดข้าว จากกระบวนการนี้ชาวนาก็จะได้ข้าวที่มีความชื้นหลงเหลือในเมล็ดน้อยหรือว่าข้าวแห้ง จนสามารถจะนำไปสีที่โรงสีนำมาบริโภคได้ และก็สามารถนำไปเก็บไว้ในยุ้งฉางได้ ผลพลอยได้อีกอย่างหนึ่งก็คือขาวนาสามารถนำฟางข้าวไปสุมเป็นกองไว้เป็นอาหารของวัวควายในฤดูแล้ง สามารถนำฟางไปคลุมแปลงปลูกหอม กระเทียมและยังขายเปลี่ยนจากฟางเป็นเงินได้
แต่ปัจจุบันเมื่อข้าวที่ชาวนาปลูกไม่ว่าจะเป็นข้าวนาปีหรือข้าวนาปรัง เมื่อสุกแก่ก็จ้างรถเกี่ยวข้าวมาเกี่ยว ซึ่งเมล็ดข้าวที่ใช้รถเกี่ยวยังมีความชื้นในเมล็ดอยู่มาก ไม่สามารถนำไปสีมาบริโภคได้ ไม่สามารถนำมาเก็บไว้ในยุ้งฉางได้ ฟางก็ไม่สามารถจะเก็บไว้ได้หรือขายก็ไม่มีใครซื้อ นี่ก็เป็นสาเหตุที่ชาวนาต้องขายข้าวเปลือกและซื้อข้าวสารมาบริโภค ยุ้งฉางที่เคยตั้งอยู่ข้างบ้านก็อันตรทานหายไปอยู่ในรีสอร์ท ธุรกิจโรงสีข้าวในชุมชนก็ล้มหายตายจากเนื่องด้วยไม่มีข้าวมาสี วิธีชีวิตในการทำการเกษตรแบบผสมผสานคือเอาข้าวไปสี จะได้ข้าวมาบริโภค ได้ปลายข้าวและรำมาเลี้ยงสัตว์ก็เปลี่ยนไป ราคาข้าวสารจะถูกหรือแพงขึ้นอยู่กับโรงสีข้าวขนาดใหญ่ที่อยู่ในเมือง ราคาเนื้อสัตว์ขึ้นอยู่กับบริษัทที่ครบวงจร ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกษตรกรได้จากผลพลอยได้การทำนานำมาใช้ประโยชน์กับการปลูกพืชและเลี้ยงสัตว์ก็สูญสิ้นจนในที่สุดเกษตรกรจะเลี้ยงสัตว์ก็ต้องซื้ออาหารสำเร็จรูปจากบริษัท ไม่ว่าจะเป็นอาหารวัว อาหารหมู อาหารไก่ อาหารปลา แม้แต่อาหารหมาและแมวก็ต้องซื้อ ซึ่งแตกต่างจากอดีตโดยสิ้นเชิง ทุกสิ่งทุกอย่างต้องอยู่ในมือของบริษัทหรือโรงสีใหญ่ ๆ ต้องซื้อทุกอย่างเปลือกข้าวที่แต่ก่อนให้กินฟรีๆ นำมาผสมกับดินใช้ปลูกต้นไม้ ตอนนี้ต้องซื้อขนาดกระสอบปุ๋ย ขายอยู่กระสอบละ 5 บาท ขึ้เถ้าแกลบหรือชาวบ้านเรียกแกลบดำกระสอบปุ๋ยกระสอบละ 50 บาท ชาวบ้านที่เจาะน้ำใต้ดินมาใช้อุปโภคบริโภคได้น้ำที่เป็นสนิมเหล็กคือน้ำมีสภาพเป็นกรดหรือน้ำฮาก ก็จะใช้ขี้เถ้าแกลบซึ่งคุณสมบัติเป็นด่างกรอง จะเพาะเมล็ดพันธ์หรือผสมดินปลูกต้นไม้ก็ต้องใช้ขี้เถ้าแกลบผสมจึงจะดี
ในครั้งนี้จะขอแนะนำกรรมวิธีการเผาแกลบให้เป็นขี้เถ้าแกลบโดยใช้ถังขนาด 200 ลิตร ซึ่งเป็นขบวนการที่ง่าย ได้ขี้เถ้าแกลบที่เป็นแกลบกัมมันหรือแอคติเวเต็ดคาร์บอน มีน้ำหนักเบา รูพรุนมาก สามารถนำมาเป็นถ่านอัดแท่งพลังงานสูงได้ ดูดซับกลิ่นได้ดี ใช้กรองน้ำที่เป็นสนิมเหล็กหรือน้ำฮากได้ ใช้ขี้เถ้าแกลบ 1 ส่วนผสมกับดิน 1 ส่วน ปักชำกิ่งไม้ได้ เป็นวัสดุเพาะเมล็ดได้ดีมาก
ประโยชน์ของขี้เถ้าแกลบ
1. ใช้เป็นวัสดุสำหรับกรองน้ำฮากหรือน้ำสนิมเหล็ก
2. ใช้เป็นวัสดุเพาะกล้าหรือปักชำ หรือเพาะเมล็ด
ขี้เถ้าแกลบ 1 ส่วน
ดินหรือทราย 1 ส่วน
3. ใช้เป็นวัสดุผสมดินปลูกต้นไม้ในกระถางหรือภาชนะ
ขี้เถ้าแกลบ 1 ส่วน
ดิน 1 ส่วน
ปุ๋ยคอกที่ย่อยสลายแล้ว 1 ส่วน
เปลือกมะพร้าวสับ 1 ส่วน
4. ใช้เป็นวัสดุดูดซับกลิ่นในตู้กับข้าวหรือตู้เย็น
นำขี้เถ้าแกลบบรรจุในถุงผ้าหรือจะเย็บเป็นตัวการ์ตูนหรือรูปสัตว์ต่าง ๆ
5. ใช้ทำถ่านอัดแท่งพลังงานสูง
ขี้เถ้าแกลบ 10 ส่วน
แป้งผ้าหรือแป้งมัน 1 ส่วน
ผสมให้เข้ากัน โดยผสมน้ำพอหมาด แล้วนำไปขึ้นรูปเป็นแท่ง มีรูตรงกลาง เสร็จนำไปตากแดด 3 วัน นำมาใช้ในเตาได้
6. ใช้บรรจุในหมอนหรือที่นอนในธุรกิจสปาร์
วิธีการเผาแกลบถัง 200 ลิตร
ลักษณะเด่น
- ใช้แกลบเป็นวัสดุในการเผา
- ใช้เวลาเผาน้อยกรรมวิธีไม่ยุ่งยาก
- ได้แกลบดำที่มีคุณภาพไม่เป็นเถ้าละเอียด,ใส่ต้นไม้ได้ดี,ดูดกลิ่นในตู้เย็นได้ดีเนื่องจากมีรูพรุนสูง
- อุปกรณ์ประกอบเตาหาซื้อได้ตามร้านขายเครื่องก่อสร้างทั่วไป
- ตัวเตาดูแลรักษาง่ายอายุการใช้งานนาน
ด้านกรรมวิธีการผลิต
1 ใช้เวลาในการเผาถ่านสั้น(ภายใน ครึ่งวัน)
2. ควบคุมอากาศในการเผาไหม้ได้ตามต้องการ
- การเผาแกลบเกิดเป็นขี้เถ้าน้อย
- สามารถใช้แรงงานคนเดียวในการเผา
วิธีการจุดเตา
1. นำแกลบดิบมาใส่ลงในถังขนาด 200 ลิตร โดยรองก้นถังด้วยตะแกรงรูขนาดที่แกลบไม่หลุดผ่านได้ วางบนอิฐเพื่อให้อากาศผ่านเข้าได้สะดวก
2. ใส่แกลบให้เต็มถัง นำกระป๋องโคกปิดรูปล่องควันทั้ง 3 ข้าง
3. การจุดไฟจะจุดด้านบนเพราะแกลบจะไหม้จากบนลงด้านล่าง โดยใช้กระดาษหรือวัสดุติดไฟอื่นๆ ล่อไฟให้ไหม้แกลบ โดยจะต้องมีพัดลมเป่าเข้าหน้าเตาด้านล่างของตัวถัง เพื่อช่วยให้ไฟติดเร็วขึ้น
4. เมื่อไฟด้านบนติดแล้วใช้ฝาถังปิดถังให้สนิทไม่ให้มีอากาศด้านบนเข้า เปิดปล่องควันด้านบนฝาถังเพียง 1 ปล่อง รอจนไฟติดแล้วค่อยปิดพัดลมใช้เวลาเผาประมาณ 5-6 ชั่วโมงแกลบจะไหม้กลายเป็นแกลบดำหมดทั้งถัง
5. การปิดหน้าเตาเมื่อแกลบกลายเป็นขี้เถ้าแกลบ โดยปิดหน้าเตา ปิดปล่องควันด้านบนทุกปล่อง แล้วปิดหน้าเตาด้านล่างใช้ดินผสมน้ำปะอีกรอบเพื่อไม่ให้อากาศเข้าได้ เมื่ออากาศเข้าไม่ได้ไฟในเตาจะดับไปเอง
ท่านผู้อ่านท่านใดสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ อาจารย์พิชัย สมบูรณ์วงศ์ หัวหน้าฝ่ายส่งเสริมการเกษตร สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 053-873938-9 ในวันและเวลาราชการ
นำเสนอข่าวโดย
ฝ่ายส่งเสริมการเกษตร สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ โทร. 053-873938-9