การดูแลลำไยช่วงแตกใบอ่อน

    37-1ปีนี้เป็นปีทองของเกษตรกรชาวสวนลำไยที่ผลิตลำไยทั้งนอกฤดูและในฤดู  เกษตรกรคนไหนดูแลเอาใจใส่สวนดีอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ  มีการให้ปุ๋ย  ตัดแต่งช่อผลกรณีผลต่อช่อดก  มีน้ำให้    ผลไม่แตกเสียหาย  ผลโตมากกว่าผลเล็กถือว่าได้เงินเป็นกอบเป็นกำ...

    37.jpgเพราะราคาลำไยปีที่ผ่านมานี้ถือได้ว่าแพงใช้ได้เลยทีเดียว  แต่เกษตรกรคนไหนที่ไม่ค่อยดูแลเอาใจใส่  ขาดการลงทุน  ก็จะได้น้อยหน่อย  อย่างไรก็ตามการที่จะประสบผลสำเร็จในการผลิตลำไยให้ได้ปริมาณและคุณภาพดี  จำเป็นต้องปฏิบัติ  ดูแล  เอาใจใส่ทุกกระบวนการ  ตั้งแต่หลังการเก็บเกี่ยวผลผลิตจนถึงรอบการเก็บเกี่ยวผลผลิต  ฉบับที่  14553  ประจำ     วันศุกร์ที่ 6  สิงหาคม  2553  ได้คุยกันถึงเรื่อง  การตัดแต่งกิ่งหลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้ว   และฉบับนี้จะเกี่ยวข้องกับการให้ปุ๋ย  โรคและแมลงที่มีความสำคัญของลำไย

    การให้ปุ๋ยลำไยช่วงแตกใบอ่อน
    หลังจากเกษตรกรชาวสวนลำไยได้ตัดแต่งกิ่งไปแลัว  ไม่ว่าจะรูปทรงเปิดกลางทรงพุ่ม ทรงสี่เหลี่ยม  หรือทรงฝาชีหงาย  เดือนนี้เดือนกันยายนลำไยของท่านก็คงจะเริ่มแตกใบชุดที่ 2  กันแล้ว  การแตกใบอ่อนของลำไยแต่ละครั้งเหมือนกับคนเริ่มทำงานหนัก  ต้องการอาหารและน้ำมาก  ลำไยก็เช่นเดียวกัน  ขบวนการหรือกิจกรรมแต่ละครั้งไม่ว่าจะแตกใบอ่อน  แทงช่อดอก  หรือติดผล  ก็ย่อมต้องการอาหารและน้ำมากกว่าปรกติ  จากการวิจัยของ  ผศ. ยุทธนา  เขาสุเมารุ  และคณะ  พบว่าธาตุอาหารที่ลำไยต้องการมากในช่วงนี้คือ  ธาตุไนโตรเจนและโพแทสเซียม  ดังนั้น  สูตรปุ๋ยที่จะต้องให้ทั้งสองธาตุดังกล่าว  เพื่อให้ง่ายต่อการประมาณและง่ายต่อการปฏิบัติ  จึงได้กำหนดสูตรปุ๋ยที่เกษตรกรชาวสวนลำไยใช้กันโดยทั่วไปคือสูตร  46-0-0  ,  15-15-15  และ  0-0-60  ผสมกันและต้องใช้ให้หมด  ในการให้ปุ๋ยแต่ละครั้ง  ผสมแล้วเก็บไว้ไม่ได้ ปุ๋ยจะละลาย  และเพื่อลดต้นทุนในการซื้อปุ๋ยสูตรสำเร็จ  ส่วนอัตราการให้นั้นขึ้นอยู่กับขนาดของทรงพุ่ม  ดังแสดงให้ในตาราง  โดยให้ทุกครั้งที่มีการแตกใบอ่อน  ส่วนปุ๋ยอินทรีย์  เช่น  ปุ๋ยคอก  ปุ๋ยหมัก  ควรใส่ในช่วงหลังจากเก็บผลผลิต  โดยใส่ก่อนหน้านี้แล้ว  อัตราประมาณ  10-30  กิโลกรัมต่อต้น 

    ตารางแสดงปริมาณปุ๋ยที่ควรให้ลำไยในแต่ละครั้งหลังการแตกใบอ่อน  (กรัมต่อต้น)

    เส้นผ่าศูนย์กลาง

    ทรงพุ่ม (เมตร)

    สูตรปุ๋ย

    46 – 0 – 0

    15 – 15 – 15

    0 – 0 - 60

    1

    16

    12

    9

    2

    32

    23

    15

    3

    75

    53

    40

    4

    150

    100

    80

    5

    260

    180

    140

    6

    430

    290

    230

    7

    650

    450

    370

    หมายเหตุ เกษตรกรจะต้องไปหาซื้อปุ๋ยสูตร  15-15-15  (สูตรเสมอ)  ปุ๋ยยูเรีย  46-0-0  และปุ๋ยโพแทสเซียมซัลเฟต  0-0-60  โดยนำมาผสมให้ลำไยแต่ละครั้งหลังการแตกใบอ่อน  หรือจะแบ่งใส่ หลาย ๆ ครั้งก็ยิ่งดี  คือ  ใส่ในปริมาณน้อยแต่บ่อยครั้ง  อย่าลืมใส่ปุ๋ยแล้วให้น้ำตามทันที  น้ำจะช่วยให้ปุ๋ยละลาย  พืชจึงนำไปใช้ประโยชน์ได้  หลังจากให้ปุ๋ยลำไยแล้ว  ต้องหมั่นตรวจ  หรือสำรวจโรคและแมลงด้วย

    โรคและแมลงช่วงลำไยแตกใบอ่อน
    จากการวิจัยของ  รศ.ดรจริยา  วิสิทธ์พานิช  และคณะ  พบว่าแมลงศัตรูลำไยระยะใบอ่อนที่ระบาดเป็นประจำในช่วงที่ลำไยแตกใบอ่อนคือ  หนอนคืบลำไย  หนองคืบเขียวกินใบ  แมลงค่อมทอง  แมลงนูน  และอาการโรคพุ่มไม้กวาด

    1. กลุ่มหนอนกัดกินใบ เช่น หนอนคืบ  หนอนมังกร  ทำลายโดยกัดกินใบอ่อนหมดทั้งต้นได้ภายใน  2-3  วัน

    39.jpg 38.jpg
    หนอนมังกร หนอนคืบ

    การป้องกันกำจัดหนอนกัดกินใบอ่อน
    1. ในระยะที่ลำไยแตกใบอ่อน  และมีการระบาดของหนอนให้ฉีดพ่นด้วย แลมป์ดาไซฮาโลทริน (คาราเต้ 2.5% EC) อัตรา 12 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร  หรือ เฟนวารีเลต    (ซูมิไซดิน 20% EC) อัตรา 10 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร หรือ คลอร์ไพริฟอส (ลอร์สแบน 40% EC) อัตรา 50 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร  หรือบาซิลัส ทูริงเยนซิส (แบคโทสปีน เอฟซี) 120 มิลลิลิตร ต่อน้ำ 20 ลิตร เลือกใช้ชนิดใดชนิดหนึ่ง ควรใช้สารเคมีฆ่าแมลงสลับกลุ่มกันไป
    2.  กำจัดวัชพืชไม่ให้เป็นที่หลบอาศัยของผีเสื้อ

    2.  กลุ่มด้วงปีกแข็ง  เช่น  แมลงค่อมทอง  ด้วงกุหลาบ  และแมลงนูน ทำลายโดยกัดกินใบลำไย  ความเสียหายรุนแรงในต้นที่ปลุกใหม่ทำให้ลำไยชะงักการเจริญเติบโตได้

    36.jpg 37.jpg
    แมงค่อมทอง

    การป้องกันกำจัด
    บริเวณที่พบแมลงค่อมทองและด้วงกินใบระบาดเป็นประจำควรฉีดพ่นด้วยอะซีเฟต 75%SP (ออร์ธีน 75 เอสพี) อัตรา 50 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือพ่นด้วย คาร์บาริล (เซฟวิน 85%WP) อัตรา 60 กรัมต่อน้ำ20 ลิตร อย่างใดอย่างหนึ่ง

    3.  อาการหงิกเป็นพุ่มไม้กวาด
    ไรลำไย  เป็นตัวการทำให้ช่อใบที่แตกออกใหม่  เกิดอาการม้วนหงิกเป็นพุ่มไม้กวาด  จะพบระบาดมากในลำไยพันธุ์เบี้ยวเขียว  และจะพบได้โดยทั่วไปทุกพื้นที่  และทุกพันธุ์  โดยเฉพาะลำไยที่ขาดการตัดแต่งกิ่งทรงพุ่มให้โปร่ง  แสงแดดส่องได้ทั่วถึง  ไรลำไยมีขนาดเล็กมองไม่เห็นด้วยตาเปล่า

    40.jpg 41.jpg
    อาการม้วนหงิกบนช่อดอก

    อาการม้วนหงิกบนช่อดอก
    การป้องกันกำจัด
    1.    คัดกิ่งพันธุ์โดยใช้กิ่งตอนจากต้นที่ไม่มีอาการหงิกเป็นพุ่มไม้กวาดมาปลูก
    2.    ต้นที่เริ่มเป็นหรือมีอาการพุ่มไม้กวาดไม่มากนัก ตัดช่อที่แสดงอาการหงิกไปฝัง หรือเผาไฟ เพื่อกำจัดไรที่อาศัยอยู่ในช่อ  การตัดช่อหงิกทำได้สะดวกขณะที่ต้นลำไยยังอายุไม่มากนัก (ไม่เกิน 5 ปี) การตัดช่อทิ้งเพียงอย่างเดียวลดอาการม้วนหงิกได้ 70  %
    3.    ต้นที่มีอายุมากกว่า 10 ปี ขึ้นไปการตัดช่อทิ้งปฏิบัติได้ยาก  การใช้สารกำจัดไร เช่นผงกำมะถัน (ไมโครไทออล สเปเซียล) 80% WP อัตรา 200 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร  อามีทราซ   หรือโบรโมโพรไพเรต สามารถกำจัดไรได้ดี  อย่างไรก็ตามยังพบอาการม้วนหงิกประมาณ 30-70 เปอร์เซ็นต์

     

    ท่านผู้อ่านท่านใดสนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่    ผศ.พาวิน  มะโนชัย  ผู้อำนวยการศูนย์เครือข่ายวิจัยและพัฒนาลำไยแม่โจ้-สกว.  ศูนย์วิจัยและพัฒนาลำไยแม่โจ้  นายพิชัย  สมบูรณ์วงศ์     และ                           นางจิรนันท์  เสนานาญ     สำนักวิจัยและส่งเสริมวิชาการการเกษตร          มหาวิทยาลัยแม่โจ้                          จ. เชียงใหม่  50290   โทร.   053-873939      ในวันและเวลาราชการ

    © 2017 Your Company. All Rights Reserved. Designed By agethemes.com.com
    Free Joomla! templates by AgeThemes